I  want  to  have  many  friends.

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"5 สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับพริกป่น"


เรารับประทานพริกป่นเป็นอาหารหลักกันมานมนาน คุณเคยรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของพริกป่นบ้างไหม

1. ในพริกป่นมีทั้งรสและกลิ่นเผ็ดร้อนที่ช่วยให้เกิดอาการตื่นตัว ซึ่งส่วนประกอบในพริกที่ทำเรารู้สึกอย่างนั้นก็คือ capsaicin

2. มีการศึกษาพบว่า capsaicin ในพริกมีความสามารถในการกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยไม่ทำลายเซลล์ดีภายในร่างกาย ซึ่งอีกไม่นานจะมีการแนะนำให้ใช้ capsaicin ในการรักษามะเร็ง นับเป็นการบำบัดแบบใหม่ที่มีทิศทางที่ดีในอนาคต

3. พริกป่นมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ของกล้ามเนื้อหลังได้ดี คุณสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อย ได้ที่บ้านด้วยการใช้พริกป่นใส่ลงในอาหารที่รับประทาน

4. พริกป่นช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติหลังจากมื้ออาหารที่คุณตัดลด คาร์โบไฮเดรตลงไป เพราะฉะนั้นจึงมีการศึกษาเพื่อจะใช้พริกป่นมาช่วยในการบำบัดรักษาโรคอ้วน อยู่ในขณะนี้

5. ส่วนผสมอันดับหนึ่งที่ช่วยในการทำความสะอาด หรือดีท็อกซ์ร่างกายก็คือพริกป่น เพราะในพริกป่นมีสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการทำความสะอาดร่างกายด้วยตัวเอง ทั้งยังช่วยยับยั้งเมือกที่จับอยู่ภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย


มีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับกาแฟมาฝาก


3 ประโยชน์น่าประหลาดใจของเมล็ดกาแฟ


ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น สิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณไม่มีลูกอมดับกลิ่นปาก ก็คือเอาเมล็ดกาแฟมาอม เอาไว้ชั่วครู่ ลมหายใจคุณจะมีกลิ่นสะอาดและสดชื่นอีกครั้ง

กำจัดกลิ่นอาหาร ถ้ามือของคุณมีกลิ่นกระเทียม ปลา หรือกลิ่นอาหารแรงๆ ชนิดอื่น เมล็ดกาแฟเล็กน้อยสามารถช่วยคุณกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ โดยเทเมล็ดกาแฟลงบนมือและถูมือเข้าด้วยกันสักครู่ น้ำมันจากเมล็ดกาแฟจะดูดซับกลิ่นเหม็นๆ ออกไป จากนั้น ก็ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ให้สะอาด

ยัดไส้เก้าอี้ เก้าอี้แบบที่เรียกว่าบีนแบ็ก หรือเก้าอี้ทรงถุงกลมๆ ที่มักยัดไส้ด้วยเม็ดถั่ว ที่จริงแล้วเมล็ดกาแฟก็สามารถเอามาใช้ทดแทนกันได้เช่นกัน ลองหาเมล็ดกาแฟคั่วชนิดที่ราคาถูกที่สุดเอามาใช้ ข้อดีอีกอย่างก็คือมันจะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ในห้องได้ด้วย

10 วิธีดังต่อไปนี้จะช่วยคุณผ่อนคลายความเครียด ลองอ่านกันดู

1. ลดหรือเลิกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โค้ก หรือ ช็อคโกแลต 

ถ้าคุณทำได้ผลที่ตามมาก็คือความผ่อนคลายทำให้นอน หลับได้ดีขึ้น มีความกระฉับกระเฉง

ในการทำงาน และกล้ามเนื้อจะไม่อ่อนล้า 

2. บริโภคอาหารให้ถูกสุขลักษณะ พยามยามยกเว้นบริโภคอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ 

3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยที่สุดคุณควรออกกำลังกาย 3 ครั้ง ต่อ 1 อาทิตย์ 

โดยใช้เวลา 30 นาทีต่อครั้งเป็นอย่างต่ำ 

4. นอนให้เพียงพอ 

5. รู้จักฝึกฝนตนเองให้ผ่อนคลายอยู่เสมอเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น เช่น การนั่งสมาธิ

6. จริง ๆ แล้ว หนึ่งในวิธีที่จะผ่อนคลายความเครียดได้ดีที่สุดคือ การงดเว้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ

7. ไม่ควรตั้งความหวังให้สูงเกินไป คนส่วนใหญ่เกิดความเครียดเนื่องจากการไม่สมหวัง

ฉะนั้น คุณไม่ควรตั้งความหวังไว้สูง ควรตั้งความหวังให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง 

8. มองโลกในแง่ดี และเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นเรื่องท้าทาย

9. เมื่อเกิดความเครียดพยายามหาที่ปรึกษาพูดคุยที่คุณไว้ใจได้ 

10. อารมณ์ขันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบำบัดความเครียด 

ขอบคุณ : expert2you.com

จังหวะแห่งการก้าวเดินของชีวิต

ทุก ๆ วินาที 
ของจังหวะแห่งการก้าวเดินของชีวิต 
หากเปรียบได้กับวันเวลา
ที่มีนาฬิกาชีวิตเป็นเครื่องบ่งบอก
จะทำให้เราค้นพบว่า

บางช่วงจังหวะของชีวิต
คือ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการมีชีวิตอยู่

นาฬิกาชีวิต
ของคนเราแตกต่างกัน
เหมือนกับช่วงกาลเวลาที่ผ่านวัยของคนเรา

วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยชรา

นาฬิกาชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน
ช่วงวัยเด็ก
อาจเปรียบได้กับช่วงเวลา ๐๖.๐๐ น.
ยังเช้าอยู่ รอรับรุ่งอรุณแสงทองแห่งชีวิต
อยู่ในช่วงสดชื่น สดใส

ช่วงวัยรุ่น
อาจเปรียบได้กับช่วงเวลา ๐๘.๐๐ น.
ช่วงตะวันทอแสงอ่อน
เป็นวัยที่สนุกสนาน ร่าเริง
มักสนใจอยู่กับเพื่อน กับความสวยงามของตนเอง

ช่วงวัยผู้ใหญ่
อาจเปรียบได้กับช่วงเวลา ๑๒.๐๐ น.
เที่ยงวันกันเอง ครึ่งหนึ่งของชีวิต
ที่ต้องแบกรับภาระต่าง ๆ ในชีวิต
กำลังร้อนแรง สู้อดทนต่อทุก ๆ สิ่ง
ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตนานัปกา
เป็นวัยที่ต้องสร้างหลักฐานชีวิตครอบครัว

ช่วงวัยชรา สู่วัยสูงค่าราคาคน
อาจเปรียบได้กับช่วงเวลา ๑๘.๐๐ น. หรือ ๖ โมงเย็น
ตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้า
หมดเรี่ยวแรง เข้าสู่วัยพักผ่อนหย่อนใจ
เพื่อหันกลับมาเริ่มต้น
พัฒนาคุณธรรมในจิตใจ
เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้า
ดวงจันทรา และหมู่ดาวทอแสงระยิบระยับ
งามสง่าในยามค่ำคืน

นาฬิกาชีวิต
ในช่วงยามราตรี
ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาแต่ละช่วงเวลา
ของทุกเพศทุกวัย
ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่สดใส
แต่จุดจบของแต่ละคน..อาจมีช่วงเวลาที่ไม่เท่ากัน

นาฬิกาชีวิตของเรา
จะเดินได้ต่อไปหรือไม่
ขึ้นอยู่ที่ถ่านไฟเก่า คือ บุญกุศลที่เคยทำมา
และถ่านไฟใหม่ คือ
การได้เกิดมาสร้างคุณงามความดี

ถ่านไฟสองก้อนนี้
จะเป็นเครื่องบ่งบอกว่า
นาฬิกาชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร 





สุจริตกาย เจริญวัย....สุจริตใจ เจริญสุข
๑. สุจริตกาย ความบริสุทธิ์ทางกาย ฯ
๒. สุจริตวาจา ความบริสุทธิ์ทางวาจา ฯ
๓. สุจริตใจ ความบริสุทธิ์ทางใจ ฯ วิ.วิวฑฺฒนเมธี ภิกฺขุ