
มีคนชอบพูดกันว่า คนไทยเราเป็นคนเก่งไม่แพ้ใคร สามารถรับผิดชอบและทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากให้มาทำงานร่วมกันเป็นทีมแล้ว เรามักจะมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น ปัญหาความสับสนในการทำงาน ปัญหาความไม่สามัคคีของสมาชิกในทีม เป็นต้น ดังนั้น เราน่าจะมารู้กันว่าลักษณะที่สำคัญของทีมที่ดีคืออะไร
ซึ่งในที่นี้สามารถกำหนดได้เป็น 5 ลักษณะหลัก คือ
- มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน (Results) ทีมที่ดีต้องมีการกำหนดเป้าหมายของทีมที่ชัดเจน และที่สำคัญ สมาชิกในทีมทุกคนรับทราบเป้าหมายร่วมกัน โดยทุกคนทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนั้น รวมทั้งมีการวัดผลสำเร็จเป็นระยะ
- สมาชิกมีพันธะต่อเป้าหมายร่วมกัน (Commitment) มีการกำหนดเป้าหมายย่อยสำหรับสมาชิกแต่ละคนให้ชัดเจน และเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของทีม โดยสมาชิกในทีมมีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่องานที่ตนเองได้รับมอบหมาย อีกทั้งยังมีการอาสาข่วยเหลือกัน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตาม เป้าหมายของทีม
- มีการกำหนดกระบวนการที่ชัดเจน (Process) ตัวอย่างเช่น มีการกำนดวันประชุมทีมเป็นประจำ กำหนดกระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดกระบวนการรองรับกรณีเกิดปัญหา เช่น เวลาหัวหน้าไม่อยู่ ใครจะรับผิดชอบแทน หรือ เวลาเกิดปัญหาขึ้น ใครจะรับผิดชอบเรื่องอะไร เป็นต้น
- มีการสื่อสารที่ดี (Communication) ต้องมีการสื่อสารกันภายในทีมในทุกระดับ จากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน และระหว่างสมาชิกกันเอง รวมทั้งในการประชุม สมาชิกจะมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ มีการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ไม่ด่วนสรุปหรือปฏิเสธความคิดเห็นของคนอื่น
- ความไว้วางใจกัน (Trust) สมาชิกภายในทีมไว้วางใจกันในทุกระดับ มีการแบ่งปันข้อมูลกัน และเมื่อทำผิดก็มีการยอมรับผิดและรายงานให้ทีมทราบ ทุกคนในทีมมีการทำตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน พูดคุยกันด้วยเหตุผล และไม่ตัดสินผู้อื่นในทีมโดยใช้สมมุติฐานของตนเองหรือคิดไปเอง
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในคำว่า Teamwork ไม่มีพยัญชนะตัว I และ U แต่มี W และ E
ซึ่งหมายถึง ในทีมจะไม่แบ่งเป็น "ฉัน" และ "เธอ" แต่จะมี "เราทุกคน" ที่พร้อมที่จะมุ่งมั่น รับผิดชอบ เพื่อสร้างให้ทีมของเราเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม (Excellence Team) ต่อไปที่มา : ประสิทธิ์ องอาจตระกูล ผู้บริหารงานสรรหาพนักงาน บมจ.ธนาคารกสิกรไทย
----------------------------------------------------------------




ในบรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จแถวหน้า ไม่มีใครที่ได้มาง่าย ๆ หรือได้มาได้มาแบบฟลุค ๆ เพราะนั่นไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง คนที่ได้อะไรมาง่าย ๆ มักจะไม่รู้จักรักษาสิ่งเหล่านั้นให้อยู่กับตนอย่างยาวนาน เหมือนกับคนที่ถูกหวย ที่คิดว่าเดี๋ยวก็ถูกอีก จึงไม่คิดที่จะใช้จ่ายอย่างประหยัด หรือเก็บออมไว้ใช้ในอนาคต สุดท้ายเงินมากมายที่ได้มาก็หมดไป ในทางกลับกัน คนที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างยากลำบาก จะเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในความสำเร็จของตน คนเหล่านี้รู้จักที่จะรักษาความสำเร็จนั้นให้อยู่กับตนตลอดไป ความคิดที่แตกต่างกันเช่นนี้เองจึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงลักษณะของคนที่จะ ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง




เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การที่เราจะทำอะไรให้สำเร็จต้องมีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนต้องมี แต่ควรมีในระดับที่เหมาะสม เพราะหากมีมากเกินไป อาจจะทำให้เราเผลอแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเก่ง คนฉลาด หรือคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง หรือฉลาด มักจะมั่นใจในความคิดหรือแนวทางของตนเองโดยไม่ฟังใคร


