“ทุกข์ สัจจะ” ได้แก่
1. ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นทุกข์
2. ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์
3. ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
4. ความผิดหวัง ไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ ก็เป็นทุกข์
• สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงของชีวิต
เราจึงควรยอมรับความจริงเหล่านี้
ไม่มีชาวโลกคนใดจะหนีพ้นได้
• ปัญหาคุณโยมกับภรรยานั้น ถ้าพูดถึงความถูกผิดแล้ว
ต่างก็ผิดเหมือนกัน ถูกผิดเท่ากัน
ดังนี้ ต่างคนควรหาข้อเสียของตัวเอง
• สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นความพอดีกับการกระทำที่แต่ละคนได้ทำมา
ถ้าผิดฝ่ายเดียว ปัญหาคงไม่เกิด
เหมือนกับตบมือข้างเดียว เสียงย่อมไม่ดัง
• ประการที่หนึ่ง ทำความรู้สึกปล่อยวาง เพื่อให้ใจสงบ
• ประการที่สอง เจริญเมตตา พยายามส่งกระแสใจที่เป็นความปรารถนาดี เป็นความรักที่บริสุทธิ์ให้แก่ภรรยา อาจใช้วิธีนึกเห็นมโนภาพ เห็นหน้าเห็นตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใจของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนกับใคร ขอให้เขามีความสุข ให้พยายามเจริญเมตตา คิดดี พูดดี ทำดี ทั้งแก่ตัวเราเองและแก่ภรรยา ผลก็คือ ตัวเราก็จะเกิดความสุขด้วย
• ประการที่สาม ถ้าพูดในระยะยาวถึงเรื่องภพชาติแล้ว คุณโยมและภรรยาคงเคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงเป็นเหตุให้ชาตินี้ได้เป็นสามีภรรยากัน และต่อไปในชาติหน้าก็อาจจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีก
• ถ้าคุณโยมไม่แก้ปัญหาให้เกิดความเข้าใจกัน
ไม่ได้ให้อภัยและอโหสิกรรมให้แก่กันในชาตินี้
ชาตินี้เป็นอยู่อย่างไร ชาติหน้าก็จะเป็นเหมือนกับที่เป็นอยู่ในชาตินี้เช่นกัน
• ใครได้เปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะเสียเปรียบ
ใครเสียเปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะได้เปรียบ
เรื่องกรรมก็เป็นเช่นนี้
ใครฆ่าเราในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็ฆ่าเขา
• ถ้า ชาตินี้เขาทอดทิ้งเรา ชาติหน้าเราก็ทอดทิ้งเขา
ถ้าชาตินี้ใครนอกใจเรา ชาติหน้าเขาก็จะถูกนอกใจเช่นกัน
เรื่องที่คุณโยมประสบอยู่ในขณะนี้
ชาติก่อนคุณโยมอาจเป็นฝ่ายทำเขาก่อนก็เป็นได้
ต่างคนจึงต่างเป็นผู้ผิด
เหมือนไก่กับไข่ ซึ่งไม่มีเงื่อนงำว่าอะไรเกิดก่อนกัน
ในเรื่องนี้ก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิดก่อนกัน
• เมื่อเราเข้าใจ เช่นนี้แล้ว พิจารณาดูจะเห็นว่า
สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว
เพราะถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ ชาติต่อๆ ไป ก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป
ทำให้ต้องทุกข์ต่อไปหลายภพหลายชาติ
• ผู้ที่ไม่ประมาทจึงควรแก้ปัญหาในชาตินี้
ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือคิดแก้ปัญหาที่ตัวเราก่อน แก้ที่ใจเรา
สิ่ง ที่ควรปฏิบัติ คือ
(1) ยอมรับความจริงดังกล่าว
(2) ปล่อยวางอดีต ให้เหมือนกับไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
(3) ให้อภัย เจริญเมตตา ไม่ถือโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาทเขา
(4) ทำใจเราให้สงบ
• เมื่อทำได้ เช่นนี้จริงๆ เราจะอยู่ด้วยกันในชาตินี้ก็ดี ชาติหน้าก็ดี
ก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุขได้
• การคืนดีกันในชาตินี้ จะได้หรือไม่ ไม่ควรถือว่าสำคัญ
ขอให้เรามีจิตใจที่จะคืนดีแก่เขาอยู่ในตัวเราก่อน
ปฏิบัติตนเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี
จนเขารู้จัก เข้าใจ และเห็นใจเรา
และควรจะปฏิบัติให้มีการอโหสิกรรมแก่เขา
ซึ่งก็เหมือนช่วยตัวเองด้วย อย่างน้อยเราก็จะมีชีวิตที่เป็นสุขได้
• ในเรื่องภรรยาและลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก
ขณะนี้เราอาจจะมีความรู้สึกว่าเขาหนีจากเราไป
ถ้าลองเปลี่ยนความคิดดู “พลิกนิดเดียว”
ลองคิดว่า เราจะหนีจากเขาบ้าง
ลองมาบวชดูชั่วคราว
หรือจะบวชตลอดไปก็ได้ ถ้ามีความสุข
เพราะความสุขความสบายจากการอยู่คนเดียวก็มีเหมือนกัน
• อย่างที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า
“การ ไม่มีภรรยา เป็นลาภอันประเสริฐ”
ถึงจะอยู่คนเดียว ก็พยายามอยู่ให้มีความสุข
เขาจะกลับมาก็ได้ ไม่กลับมาก็ได้
• สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโยมพิจารณาให้ดีๆ
ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพุทธธรรม สมเหตุ สมผล
และขอให้บรรเทาทุกข์ พ้นทุกข์โดยเร็วๆ นี้
ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป..... เจริญพร
ขอ ขอบคุณภาพ เนื้อหาข่าว โดย: พระอาจารย์มิตซูโอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ