I  want  to  have  many  friends.

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มหัศจรรย์แห่งน้ำ





น้ำกับชีวิต

เมื่อชีวิตอุบัติขึ้นนั้น จุดศูนย์กลางที่เล็กที่สุดของชีวิตเป็นเพียงหน่วยพันธุกรรมจากแม่ครึ่งหนึ่ง และจากพ่อ อีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นน้ำ ณ เวลานั้น ชีวิตได้เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางส่วนประกอบซึ่งเป็นน้ำถึง ๙๕%

จนถึงทุกวันนี้ที่ชีวิตเราเติบใหญ่ขึ้นมา ร่างกายของเราประกอบด้วยกระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น พังผืด ผิวหนัง เม็ดเลือด น้ำเลือด ฯลฯ กว่า ๗๐% ของร่างกายเราคือ น้ำ

ข้อพิสูจน์ว่าชีวิตกับน้ำเป็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่น จนไม่อาจแยกจากกันได้ คือ ร่างกายของคนเรา อาจขาดอาหารได้หลายๆ วัน แต่ถ้าต้องขาดน้ำสัก ๒-๓ วันเท่านั้น ร่างกายก็ทนไม่ได้เสียแล้ว

แม้กระทั่งโลกที่เราอาศัยอยู่ ผิวโลกเป็นสีน้ำทะเล เพราะมีผืนน้ำอยู่ถึง ๗๐% โลกนี้จึงได้ชื่อว่า ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน ขณะที่มีผืนแผ่นดินให้เป็นที่อาศัยของมนุษย์เพียง ๓๐% เท่านั้น

น้ำ ตามธรรมชาติ จะสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะของสิ่งแวดล้อมและมลพิษได้ หากเรานำน้ำจากแหล่งต่างๆ มาตรวจ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง หรือแม้กระทั่งน้ำใต้ดิน เราจะทราบได้ว่า ที่นั้นๆ แหล่งน้ำมีสภาพความ ปนเปื้อน และมลพิษมากน้อยเพียงใด

ในร่างกายคนเราก็เช่นกัน เมื่อต้องการจะตรวจการทำงานของระบบต่างๆ เราจะเจาะเอาเลือดออกมาแล้วปั่นแยกเม็ดเลือดออกไป นำน้ำที่ได้ไปตรวจ ก็จะสามารถบอกได้ว่า ตับ ไต หัวใจ เส้นเลือด อวัยวะใหญ่น้อยภายในตัวเรายังทำงานปกติดีอยู่หรือไม่

จากตัวอย่างที่กล่าวมา จึงพอตั้งสมมุติฐานได้ว่า น้ำ มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดสิ่งที่มันแวดล้อมอยู่และเป็นที่บันทึกข้อมูลได้เป็นอย่างดี

ในเมื่อชีวิตเราจะขาดน้ำไม่ได้เลย เราเองต้องดื่มน้ำทุกวัน นอกจากนี้แล้ว เรายังใช้น้ำเพื่ออาบ เพื่อชำระร่างกาย ฯลฯ น้ำที่เราใช้ทุกวันนี้ จึงมีส่วนอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของเรา
ภาษาแห่งน้ำ

(มาซารุ อิโมโต)
(ผู้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาสน์จากน้ำ)

มีนักวิชาการชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง นำโดย นายมาซารุ อิโมโต พยายามที่จะศึกษาเรื่องน้ำ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เขาได้พบกับนักชีวเคมีชาวอเมริกัน ดร.โลเรนเซน ผู้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการถ่ายทอดพลังแม่เหล็กจากสารต่างๆ ลงไปในน้ำ ทำให้น้ำที่ได้มีพลังงานเฉพาะ และที่สำคัญคือ ช่วยรักษาโรคได้ เครื่องมือที่ ดร.โลเรนเซน ใช้ เป็นเครื่องมือถ่ายทอดพลังงานแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Analyzer) ซึ่งใช้กันทั่วไปในกลุ่มแพทย์ด้าน Homeopathy (เป็นการแพทย์ดั้งเดิมของชาวเยอรมัน)

มาซารุ เกิดแรงบันดาลใจว่า น้ำธรรมดาๆ จะสามารถถ่ายทอดพลังงานเข้าไปสู่ตัวมันได้จริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วจะสามารถอ่านข้อมูลที่น้ำบันทึกไว้ได้อย่างไร จากการทำงานศึกษาวิจัยอย่างหนัก เขาใช้เวลา ไปกับการเก็บตัวอย่างน้ำในที่ต่างๆ ทั่วโลก และสร้างห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ -๕ องศาเซลเซียส ซึ่งในอุณหภูมิขนาดนี้ คนจะสามารถเข้าไปทำงานในห้องนั้นได้อย่างมาก ไม่เกินคราวละ ๓๐ นาทีเท่านั้น เขาศึกษาผลึกของน้ำ และพยายามถ่ายภาพผลึกน้ำต่างๆ เพื่ออ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ หลังจากการลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน ด้วยการนำกล้องถ่ายรูปติดเข้ากับกล้องจุลทรรศน์ เข้าไปถ่ายผลึกของน้ำในตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ เป็นเวลานานร่วม ๒ เดือน และใช้ฟิล์มไปหลายพันม้วน ในที่สุดเขาก็สามารถถ่ายภาพผลึกของน้ำภาพแรกได้สำเร็จ

หลังจากนั้น เขาได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นเวลาประมาณ ๔ ปีครึ่ง ก็ได้ภาพของผลึกน้ำประมาณหนึ่งหมื่นภาพ พร้อมๆ กับการค้นพบอันน่ามหัศจรรย์เหลือเชื่อ มาซารุพบว่า น้ำจากที่ต่างๆ มีผลึกที่ ไม่เหมือนกัน น้ำจากธรรมชาติมีผลึกที่สวยงาม ในขณะที่ น้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมีและสิ่งสกปรกต่างๆ จะมีผลึก ที่น่าเกลียดน่ากลัว มาซารุเก็บตัวอย่างน้ำจากที่ต่างๆ และนำมาศึกษาโดยหยดตัวอย่างน้ำลงบนจานแก้ว แล้วนำ ไปแช่แข็งในห้องทดลองที่มีอุณหภูมิ -๕ องศาเซลเซียส จากนั้นนำผลึกน้ำมาถ่ายภาพเก็บข้อมูลไว้ เขาจะทำเช่นนี้ ซ้ำๆ กันในแต่ละตัวอย่างจำนวน ๑๐๐ ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า สิ่งที่เขาค้นพบ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เขาศึกษาน้ำจากน้ำประปาที่ต่างๆ และตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก น้ำในลำธาร น้ำจากน้ำพุธรรมชาติ น้ำในแม่น้ำลำคลอง น้ำในทะเลสาบ จนถึงน้ำแข็งขั้วโลก

วันหนึ่ง มาซารุเกิดสงสัยว่า น้ำฟังดนตรีได้หรือไม่ สิ่งที่เขาพบจากการทดลองคือคำตอบที่น่าอัศจรรย์ใจ ปฏิกิริยาของน้ำ ต่อดนตรีหรือเพลงต่างๆ รวมทั้งเสียงสวดมนต์ด้วย ทำให้น้ำเกิดผลึกที่แตกต่างกัน มาซารุพบว่า น้ำที่ผ่านเสียงสวดมนต์มีผลึกที่สวยงาม แต่น้ำที่เปิดเพลง Heavy Metal จะเกิดปฏิกิริยาในทางลบต่อผลึก

แม้ที่สุด มาซารุทดลองเขียนคำพูดดีๆ ติดไว้ที่ข้างหลอดทดลอง เปรียบเทียบกับคำพูดหยาบคาย โดยหันกระดาษด้านที่เขียนแนบปิดกับหลอดทดลองไว้ ก็พบว่า ผลึกของน้ำที่เขียนคำพูดดีๆ จะมีลักษณะสวยงาม เป็นระเบียบ ตรงข้ามกับผลึกที่ได้จากหลอดทดลองที่เขียน คำหยาบคายติดไว้ ซึ่งจะมีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว

จากประสบการณ์ของมาซารุทำให้ผู้เขียนได้คิดว่า คำไพเราะ กับคำหยาบคาย ยังมีผลต่อผลึกของน้ำถึงขนาดนี้ แล้วคำดีๆ ที่ประกอบด้วยความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี จะมีผลต่อจิตใจของมนุษย์เพียงใด

และในทางตรงข้าม คำหยาบคาย ส่อเสียด ประชดประชัน คำที่แสดงความโกรธ เกลียด ก็คงมีผลต่อใจคนไม่แพ้กัน เพียงแต่เป็นผลที่ตรงกันข้าม แต่ผลที่เกิดขึ้นมิใช่เกิดกับจิตใจของผู้ฟัง ผู้อ่านเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากแต่ผลที่เกิดขึ้นย่อมกระทบกับจิตใจของผู้พูด ผู้เขียน เป็นอันดับแรก

ความสงสัยของมาซารุยังไม่สิ้นสุด เขาทดลองเขียนคำว่า Adolph Hitler แปะไว้ข้างหลอดทดลอง เขาได้ผลึกที่น่าเกลียดน่ากลัวเกือบทั้งหมดจากการทำซ้ำถึง ๑๐๐ ครั้ง

และที่เป็นการยืนยันว่าการถ่ายทอดพลังคลื่นสู่น้ำ ของ ดร.โลเรนเซน มาซารุพบว่า น้ำกลั่น เมื่อนำมาถ่ายทอดพลังงานจากสมุนไพร หรือดอกไม้ต่างๆ ด้วยเครื่อง Magnetic Resonance Analyzer ของแพทย์ด้าน Homeopathy จากเยอรมัน พบว่าผลึกของน้ำที่ได้ มีรูปร่างบ่ง ถึงพลังงานแฝงที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะสนับสนุนว่า น้ำเมื่อถ่ายทอดพลังงานลงไปแล้ว ก็จะมีพลังงานที่จะถ่ายทอดต่อให้กับคนอื่นได้ พลังงานที่ได้ อาจใช้ในการรักษาโรคได้ด้วย
น้ำพระพุทธมนต์

ผลการทดลองของมาซารุ ทำให้เรารู้จัก น้ำ ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งใหม่ คนโบราณ รู้และเข้าใจเรื่องราวของน้ำเป็นอย่างดี มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนมาแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรค ระบาดที่เมืองเวสาลี ในช่วงเวลานั้นเกิดภัยแล้ง ข้าวกล้าในไร่นาเกิดความเสียหายหนัก ผู้คนอดอยาก และล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองเวสาลีนำซากศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้นอกเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า

“เพราะกลิ่นซากศพของคนที่ตายทั้งหลาย พวกอมนุษย์ทั้งหลายก็เข้าเมือง ต่อแต่นั้นคนก็ตายมากต่อมาก เพราะความปฏิกูลนั้น อหิวาตกโรคย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ทั้งหลาย”

ชาวเมืองเวสาลีช่วยกันค้นหาสาเหตุของทุพภิกขภัยครั้งนี้ ได้กราบทูลพระราชาว่า คงเป็นเพราะพระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมกระมัง จึงเกิดทุกข์เข็ญเช่นนี้ พระราชารับสั่งให้ช่วยตรวจสอบว่า พระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมข้อใด ประชาชนก็ช่วยกันพิจารณาตรวจสอบแต่ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ต่อมามีบางพวกเสนอว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ขอได้โปรดกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระพุทธองค์มาโปรดชาวเมืองเวสาลีด้วยเถิด

ในขณะนั้นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองราชคฤห์ และพระเจ้าพิมพิสารทรงอุปัฏฐากพระพุทธองค์อยู่ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบว่าชาวเมืองเวสาลีได้ทูลอาราธนาพระองค์เสด็จดับทุกข์ให้ จึงทรงรับด้วยทรงทราบชัดว่า

"เมื่อเราแสดงรัตนสูตรในเมืองเวสาลีแล้ว อารักขาจะแผ่ไปตลอดแสนโกฏิจักรวาล ในเวลาจบพระสูตร ธรรมาภิสมัยจักมีแก่สัตว์ ๘๔,๐๐๐"

เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปถึงเมืองเวสาลี เกิดฝนตกหนัก เรียกว่า "ฝนโบกขรพรรษ" เป็นฝนพิเศษ เพราะผู้ใดต้องการจะเปียกฝน ก็เปียก ผู้ใดไม่ต้องการเปียก ก็จะไม่เปียก ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมถึงเข่า ถึงเอว ถึงคอ แล้วน้ำพัดพาเอาซากศพเหล่านั้นลงไปในแม่น้ำคงคาจนหมดสิ้น แผ่นดินก็สะอาดบริสุทธิ์ขึ้น

ต่อมาพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนอยู่ที่ประตูพระนคร ตรัสเรียกพระอานนท์มาแล้วตรัสสอน "รตนสูตร" แก่พระอานนท์ แล้วโปรดให้ทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมไปทั่วเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า

"เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้น ที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร ก็เมื่อพระเถระกล่าวคำว่า "ยังกิญจิ" เท่านั้น พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่อาศัยกองหยากเยื่อ และประเทศแห่งฝาเรือนเป็นต้น ซึ่งยังไม่หนีไปในกาลก่อน ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง ๔ ....เมื่อพวกอมนุษย์ไปกันแล้ว โรคของมนุษย์ทั้งหลายก็สงบ"
มหัศจรรย์แห่งน้ำ

"น้ำ" สิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัว ที่เราไม่อาจละเลยหรือมองข้ามได้ ว่าเป็นเพียงสสารชนิดหนึ่งในโลกเท่านั้น หากแต่น้ำเป็นเสมือนแหล่งข้อมูลใหญ่ที่สามารถบันทึกเรื่องราว บอกเล่าสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน แม่นยำ จดจำทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความปรารถนาอย่างตรงไปตรงมา จากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง หรือสู่มหาชนก็ได้ ความมหัศจรรย์แห่งน้ำจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์

เรามีสิทธิ์เลือกได้ว่า รูปร่างของผลึกน้ำ ที่เขียนชื่อเราติดไว้จะมีรูปร่างอย่างไร งดงามใสพิสุทธิ์ หรือขมุกขมัวมอมแมม เพราะทุกสิ่งเริ่มต้นที่ใจ ภาษาใจ ว่าอย่างไร ภาษาน้ำก็ว่าอย่างนั้น


สิ่งเหล่านี้คืออะไร ยังไม่มีใครตอบได้

แต่สิ่งที่ตรงกันในเรื่องของการศึกษาในทุกด้านก็คือ การที่คิดดีทำดีกับทุกสิ่งบทโลกนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบสนองกลับมาในสิ่งที่ดีๆ

ในอดีตมีเทพแห่งสายน้ำ ของโลกทางตะวันออก ในโลกตะวันออกมีผีหรือเทพเจ้าผู้ปกปักรักษาน้ำ

แล้วท่านทั้งหลาย ที่ยังไม่มีความรู้เรื่องน้ำที่ท่านใช้เป็น เครื่องมือที่จะนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จแห่งชีวิต

ท่านแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำที่ตอบสนองต่อ เสียงเพลง และคลื่นชีวิตต่างๆ

ท่านหาคำตอบให้ตัวเองได้หรือยังว่า น้ำที่ท่านว่ายอยู่คืออะไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวัสดีค่ะ